เปิด(ไม่)เคล็ดลับ…ทำร้านบุฟเฟต์อย่างไรให้ไม่เจ๊ง

ทุกวันนี้..ร้านอาหารแบบบุฟเฟต์เกิดขึ้นใหม่มากมายแทบทุกที่ไม่ว่าจะเป็นชาบู, ซูชิ, ปิ้งย่าง,หมูกะทะ,และอื่นๆอีกมากมายแล้วร้านที่ให้เรา “กินได้ไม่อั้น” แบบนี้เขาทำยังไงถึงอยู่รอดได้สุดท้ายแล้วถ้ามีลูกค้ากินจุมากจริงๆ ร้านจะถึงขั้นขาดทุนหรือไม่วันนี้ Thai Kitchen Mart จะพาไปเจาะลึกธุรกิจบุฟเฟต์กันค่ะ…ตามมาเลย

จริงๆแล้ว หลักการของการเปิดร้าน “บุฟเฟต์”นั้น ง่ายๆก็คือการบริหารจัดการร้านแบบเฉลี่ย ก็คือ เอาต้นทุน Fix ของร้านทั้งหมด รวมกับค่าเฉลี่ยราคาวัตถุดิบต่อหัว แล้วหักลบกับค่าบริการของลูกค้า ก็จะเป็นส่วนต่างซึ่งเป็นกำไรให้กับร้าน….

ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่าร้านบุฟเฟต์ส่วนมากจึงต้องสามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมากเพื่อเฉลี่ยต้นทุนต่อหัว และสร้างจำนวนลูกค้าที่ทำให้ไปถึงจุดคุ้มทุนของร้านที่ตั้งไว้ได้

1. ร้านจะเจ๊งเพราะลูกค้ากินเยอะ???

จริงๆแล้วคนเรามีค่าเฉลี่ยในการรับประทานอาหารอยู่ที่ประมาณครึ่งกิโลกรัมต่อมื้อซึ่งแน่นอนว่ามีบางคนสามารถทานได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยนี้แต่ก็ไม่มากนัก และแน่นอนว่าย่อมมีคนที่ทานได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนี้อีกด้วย

ดังนั้นหลักการก็คือ การมีลูกค้าจำนวนมาก เพื่อเฉลี่ยให้ต้นทุนต่อหัวลดลง รวมกับการบริหารจัดการอาหารให้เหมาะสมเกิดการเสียหรือทิ้งน้อยที่สุด นั่นก็จะยิ่งทำกำไรให้ร้านเราได้มากค่ะ ซึ่งการบริหารจัดการอาหารที่เหมาะสมนี้ ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของธุรกิจร้านบุฟเฟต์อย่างมากเลยนะคะ  เรามาลองดูตัวอย่างเคล็ดลับง่ายๆ ที่เราเอามาฝากกันเผื่อเป็นไอเดียให้ต่อยอดกันค่ะ

2. ลูกค้าเข้าร้านบุฟเฟต์…ไม่ได้อยากกินเยอะ…แต่เขาอยากกินคุ้ม

ความคุ้มค่านี่แหละค่ะที่เป็นหัวใจสำคัญไห้ร้านเราอยู่รอดได้ เพราะหลายคนที่ชอบเดินเข้าร้านบุฟเฟต์ก็เพราะเขาได้ทานอะไรก็ตามได้ตามชอบ โดยที่เงินในกระเป๋าไม่บานปลาย ดังนั้นการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี…เมนูที่หลากหลายถูกใจลูกค้า ย่อมสามารถที่จะเรียกลูกค้าให้มาร้านของเราได้ หัวใจหลักก็คือการจัดหาและต่อรองวัตถุดิบจาก Supplier รวมไปถึงการที่สามารถประยุกต์ให้วัตถุดิบชนิดเดียวกันสามารถดัดแปลงเป็นเมนูได้หลากหลายและตรงใจลูกค้า นับว่าเป็นความท้าทายของเจ้าของร้านบุฟเฟต์อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าเราพิชิตตรงนี้ได้ รับรองว่าลูกค้ามาต่อรอคิวหน้าร้านแน่นอนค่ะ

3. ธุรกิจบุฟเฟต์…การลดการเหลือทิ้ง คือการเพิ่มกำไร

ดังนั้น หมั่นสังเกตและเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร…อะไรถูกสั่งแล้วเหลือทิ้งบ่อย หรืออะไรที่ลูกค้าไม่ค่อยสั่ง เหล่านี้คือต้นทุนทั้งสิ้น

อย่างที่คุยกันไปตอนต้น ธุรกิจบุฟเฟต์เป็นธุรกิจที่อยู่กับอาหารสดซึ่งมีวงรอบที่ต่ำ การมีของเหลือทิ้ง หรือของเสียนับว่าเป็นต้นทุนที่เราต้องรีบแก้ไข อย่างเช่นปริมาณการเสิร์ฟที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง หรือการจัดพื้นที่ตักอาหารในกรณีที่เราเป็นร้านที่ให้ลูกค้า Self Service ที่นำวัตถุดิบที่ราคาถูกและแพงปะปนกันไป ก็จะเป็นหลักจิตวิทยาที่ช่วยให้ลูกค้าเลือกตักของคละกันได้มากกว่าการนำวัตถุดิบที่ดีและราคาแพงไปอยู่รวมกัน ซึ่งจะเป็นเป้าหมายให้ลูกค้าว่ามาตักอาหารตรงนี้สิคุ้มนะ ก็จะช่วยได้ค่ะ

4. สร้างความประทับใจในบริการ…

สำหรับร้านบุฟเฟต์แล้ว การเข้ามาและได้รับการบริการที่ดี ถือเป็นกลยุทธมัดใจอย่างหนึ่ง การที่พนักงานสามารถตอบสนองลูกค้าเมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือสั่งอาหารได้ทันท่วงที การลดความผิดพลาดในการเสิร์ฟ การแนะนำเมนูหรือการดูแลความสะดวกต่างๆ ตลอดจนการออกแบบ ตกแต่งร้านที่มีเอกลักษณ์ ล้วนช่วยให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลูกค้ารู้สึกว่าร้านเราเป็นร้านที่คุ้มค่าสำหรับเขาแล้ว เขาจะช่วยบอกต่อและชักชวนคนใกล้ชิดให้กลับมาใช้บริการนั่นคือการเติบโตที่ดีที่สุดเลยค่ะ

และถ้าใครที่สนใจในธุรกิจร้านบุฟเฟต์นั้น ที่ Thai Kitchen Mart เรามีทั้งอุปกรณ์และเครื่องจักรในครัว และสำหรับใช้ในร้านหลากหลายรายการให้เลือกหาในราคาที่เป็นมิตร พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร 024225022-4
Line: @thikitchenmart

ไม่ว่าฝันจะมีหน้าร้าน…หรือมองหาโอกาสขยายกิจการ
ให้เราเดินไปเคียงข้างฝันของคุณ

Together with your Dream : Thai Kitchen Mart
#ThaiKitchenMart #ไทยคิทเช่นมาร์ท #CookingExperience #TogetherWithYourDream #Buffet #AllYouCanEat